....

กาลามสูตร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
1 อนุสสวะ 2 ปรัมปรา 3 อิติกิรา

4 ปิฏกสัมปทาน 5 ตักกะ 6 นยะ 7 อาการปริวิตักกะ
8 ทิฏฐินิชฌานักขันติ 9 ภัพพรูปตา 10 สมโณ โน ครูติ
pimpun15@gmail.com

อย่ากลัวตาย แต่ต้องเตรียมตัวตาย

www.dhamma5minutes.com : Webboard

POST : 81
อย่ากลัวตาย แต่ต้องเตรียมตัวตาย

View 992
Ans 0


Member

อย่ากลัวตาย แต่ต้องเตรียมตัวตาย

ธรรมะฝึกจิต


อย่ากลัวตาย แต่ต้องเตรียมตัวตาย

สองสามวันที่ผ่านมา ผู้เขียนอยู่กับความหดหู่ใจด้วยเรื่องราวสำคัญสองประการ หนึ่ง คือการมรณภาพของพระครูธีรสารโสภณ หรือที่ญาติโยมและลูกศิษย์ลูกหาเรียกขานท่านว่า หลวงปู่ศักดิ์ กับคลื่นยักษ์สึนามิถล่มภาคใต้ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

คลื่นยักษ์สึนามิเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นดินไหวใต้ทะเลส่งผลไปทั่วแถบทะเลอันดามัน ลามไปถึงอินเดีย ศรีลังกา ยอดคนตายและบาดเจ็บหลายแสนคน ทรัพย์สินเสียหายแทนจะประมาณค่ามิได้

นับเป็นโศกนาฏกรรมอันใหญ่ยิ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

สำหรับการมรณภาพของหลวงปู่ศักดิ์ หรือพระครูธีรสารโสภณ ต้องถือเป็นเรื่องช็อกของผู้เขียนอย่างมาก เพราะเมื่อวันก่อนเข้าพรรษาที่ผ่านมายังเดินทางไปกราบเจดีย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ที่จังหวัดอุบลราชธานีด้วยกัน วันนั้นท่านยังแข็งแรงมากด้วยกำลังวังชา ไม่เห็นริ้วรอยของความเจ็บไข้ได้ป่วยแม้แต่น้อย

ในวันวางศิลาฤกษ์ ศาลาอุโบสถวัดป่าพอก หลวงปู่ศักดิ์ก็ยังมาร่วมพิธีด้วยรอยยิ้มแย้มแจ่มใส หากหลังจากนั้นเพียงสี่ห้าเดือนท่านจากเราไปอย่างไม่คาดฝันด้วยโรคร้ายมะเร็งในตับ

ผู้เขียนได้รู้จักและกราบท่านครั้งแรกเมื่อคราวสร้างวัดป่าชนะสงคราม ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ช่วงนั้นท่านมาวิเวกที่วัดป่าบ้านเด่นดีหมี ห่างจากวัดที่ผู้เขียนกำลังสร้างประมาณสี่ห้ากิโลเมตร แรก ๆ ท่านบอกกับญาติโยมว่าจะอาศัยสถานที่ภาวนาสักระยะค่อยเดินทางต่อ...แต่ญาติโยมนิมนต์ไว้ พรรษานั้นท่านจึงอยู่โปรดญาติโยมตลอดทั้งพรรษา และหลังจากออกพรรษา หลวงปู่ศักดิ์ก็เดินธุดงค์เข้าเขตพม่าทั้ง ๆ ที่ผู้เขียนได้นิมนต์เอาไว้แต่ท่านได้ปฏิเสธด้วยความนิ่มนวล

“ขอไปก่อน...ใกล้เข้าพรรษาจะกลับมาค่อยว่ากันอีกที”

พรรษาต่อมาวัดป่าชนะสงครามเสร็จสิ้น ทางคณะศรัทธาจัดพิธีมอบถวายให้สงฆ์ ภาระการก่อสร้างของผู้เขียนจบลงทำให้โอกาสเดินทางขึ้นสุโขทัยลดน้อย พร้อม ๆ ข่าวคราวของหลวงปู่ศักดิ์เงียบหายไประยะหนึ่ง จนในเดือน พฤษภาคม ๒๕๔๖ ใกล้วันเกิดของผู้เขียน หลวงปู่ศักดิ์ได้ติดต่อผ่านทางอาจารย์ประดิษฐ์ โชติโก ให้บอกภูเตศวรว่าปีนี้ท่านจะมาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดป่านาล้อม จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อรู้ข่าวผู้เขียนจึงเดินทางขึ้นไปกราบท่านทั้ง ๆ ที่ป่วยอยู่ วันที่ขึ้นไปตรงกับวันคล้ายวันเกิดของตัวเองจึงได้ทำบุญเลี้ยงพระไปด้วย

หลังฉันภัตตาหารเสร็จ หลวงปู่ศักดิ์ได้ปรารภว่าในวันอายุครบ ๔๕ ขึ้น ๔๖ ของแม้ว หลวงปู่ทำกลด ๔๖ อันให้ แต่ขอเอาไว้ ๑๖ อันสำหรับถวายครูบาอาจารย์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ส่วนที่เหลือ ๓๐ อันสุดแล้วแต่แม้วจะให้ใคร โดยท่านให้เหตุผลสั้น ๆ ว่า

“กลดจะได้กางกั้นภัยให้แม้วไง”

กลดจำนวนสามสิบอันผู้เขียนได้จำแนกแจกจ่ายให้ลูกศิษย์ลูกหาบ้าง หลายคนทำบุญมาได้เงินประมาณสามหมื่น สมทบงานบุญทอดกฐินที่วัดอมราวาส จ.สุโขทัยทั้งหมด

นั่นคือความเมตตาของหลวงปู่ศักดิ์ หรือพระครูธีรสารโสภณที่มีต่อภูเตศวร!

จากปี ๒๕๔๖ จนสิ้นพรรษา ได้พบปะท่านอีกครั้งสองครั้ง ครั้งสุดท้ายคืองานวางศิลาฤกษ์ ศาลาอุโบสถวัดป่าพอกช่วงเทศกาลสงกรานต์ และตลอดช่วงเข้าพรรษาปี ๒๕๔๗ นี้ ได้ข่าวว่าท่านหวนคืนไปจำพรรษาที่วัดป่าศรีดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น ใกล้ ๆ กับบ้านเกิดของท่าน จนล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้รับข่าวอันสุดงงงัน...ข่าวที่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง

หลวงปู่ศักดิ์หรือพระครูธีรสารโสภณ มรณภาพแล้ว!

เช้าวันที่ ๑๗ ผู้เขียนขับรถมุ่งหน้าไปกราบศพท่าน จากนั้นจึงทราบเรื่องราวความจริง...ว่าตลอดพรรษาที่ผ่านมาหลวงปู่ทนทุกข์กับโรคร้ายอย่างไร ท่านต่อสู้กับมะเร็งในตับที่เจ็บปวดอย่างสงบเงียบเยี่ยงพระป่ากรรมฐาน แม้ก่อนหน้าจะละสังขารเพียงสามสี่วัน โยมจากทางไกลโทรศัพท์มาหา ถามข่าวคราว ท่านยังตอบสั้น ๆ “ยังสบายดีอยู่”

ทั้งปวงเพราะไม่ต้องการให้ญาติโยมต้องลำบาก เพราะความป่วยไข้ เพราะการอาพาธของท่านมากกว่าประการอื่น

ก่อนวันมรณภาพ ชาวบ้านและคณะศรัทธาวัดศรีดงลานรู้ว่าหลวงปู่มีปัจจัยอยู่ทั้งหมดเพียง ๔๐ บาท ขณะที่ทุกคนรู้แน่ชัดจากแพทย์แล้วว่าอีกไม่กี่วันท่านต้องมรณภาพอย่างแน่นอน ปัญหาจึงอยู่ที่การหาปัจจัยเพื่อจัดงานศพ แต่หลวงปู่ก็ยังพูดแบบติดตลกด้วยการชี้ไปยังต้นมะพร้าวที่แคระแกร็นที่สุดในวัด

“เอาเชือกผูกคอลากไปฝังใต้ต้นมะพร้าวต้นนั้นมันจะได้งามเหมือนต้นอื่น ๆ เด้อ” แม้จะพูดยิ้มๆ แต่ท้ายสุดท่านยังแย้มให้คณะศรัทธาวัดป่าศรีดงลานเห็นภาวะจิตระดับสูงของท่านด้วยประโยคที่มั่นใจ

“อีกไม่นานด๊อก พวกเจ้าจะได้เห็นภูเตศวร เขาเป็นนักเขียนนะ เขาจะมาจัดการให้เองแหละ”

ครับ...จริงอย่างที่หลวงปู่ศักดิ์ปรารภ ภูเตศวรมีโอกาสขึ้นไปจริง ๆ ขึ้นไปเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรม และมีโอกาสซื้อเจดีย์เล็ก ๆ บรรจุอัฐิธาตุของท่านหลังการประชุมเพลิงเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้กราบไหว้ต่อไป ขึ้นไปอย่างกะทันหันแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างที่ท่านกล่าวจริง ๆ

ฉบับนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการแสดงความเสียใจต่อญาติมิตรญาติธรรมผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ศักดิ์ที่สูญเสียสุปฏิปันโนพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สูญเสียครูบาอาจารย์ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน รวมทั้งโศกนาฏกรรมจากคลื่นยักษ์สึนามิที่ภาคใต้ด้วย

และขอให้ทุกท่านจงอยู่กับสติ...ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท เพราะมรณกรรม...มรณภัย สามารถบังเกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์ตลอดเวลา โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

เหตุการณ์ทั้งปวงดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนคิดถึงคำกล่าวของหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล วัดป่าสันติกาวาส อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ที่ท่านกล่าวถึงคุณอนุชิต ปุรสาชิต ที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดด้วยคำถามที่ว่า

“ผู้จัดการกลัวตายไหม?”

“กลัวครับ” คุณอนุชิตหรือเฮียกวงของผู้เขียนตอบตามจริง ท่านก็เลยหัวเราะ บอก...

อย่ากลัวตาย เพราะคนเราทุกคนต้องตาย ไม่มีใครหลบเลี่ยงความตายได้" และทิ้งท้ายเบา ๆ เพียงแต่เราต้องเตรียมตัวที่จะตาย หาวิธีรับมือกับความตายอย่างไม่ประมาท

“เตรียมยังไงครับ?” เฮียกวงย้อนถาม ท่านเลยวิสัชชนาต่อ...

หัดให้ทาน...ฝึกภาวนาให้มาก ถ้าใครทำได้จะไม่กลัวความตาย

ประโยคสั้น ๆ ของหลวงปู่บุญจันทร์ จดจำอยู่ในใจผู้เขียนเสมอมา การรู้จักให้ทานแก่ผู้ควรให้คือการสร้างพลปัจจัยแห่งบุญเพื่อชาติภพในกาลข้างหน้า การภาวนาฝึกจิตคือการหาปัญญาสำหรับการสิ้นทุกข์ในแก่นพระนิพพาน

นั่นคือหน้าที่ของชาวพุทธที่พึงกระทำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งตรงกับพุทธดำรัสขององค์พระบรมศาสดาที่ชาวเรารู้กันในพุทธโอวาทก่อนปรินิพพานที่ว่า...

สังขารทั้งหลายย่อมมีการเสื่อมสิ้นลงเป็นธรรมดา ฉะนั้นจงยังประโยชน์ตน...ประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด

ประโยชน์ตนคือการปฏิบัติธรรม การเจริญสมาธิภาวนา ประโยชน์ท่านคือการช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นด้วยการให้ทาน ด้วยความเมตตากรุณา ซึ่งตรงกับแก่นธรรมอันเป็นไตรสิกขาบทที่เราท่านมิอาจลืมเลือน คือ ศีล ทาน ภาวนา นั่นเอง

ครับ...ก็ต้องจากลากันด้วยประโยคที่ว่า... อย่ารู้แค่จดจำ แต่รู้แล้วต้องกระทำจึงจะเป็นผลสำเร็จ...จึงอยากถามว่า

...ปีใหม่นี้ท่านเริ่มต้นทำแล้วหรือยัง?”

< 03 December 2007 14:17:35 >

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คำแนะนำในการแสดงความคิดเห็น

เชิญแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ
แล้วกรุณา ลงชื่อท่านใต้ข้อความของท่านด้วยนะคะ
แล้วเลือก แสดงความคิดเห็นในฐานะ
เป็นประเภท "ไม่ระบุชื่อ"
ท่านจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ